เรื่องธรรมชาติคือ เรื่องที่เป็นปกติ เรื่องที่เป็นปกติคือ เรื่องที่ใครๆ เขาก็ทำ ใครๆ เขาก็พบเจอ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นธรรมชาติแล้ว ดิฉันคิดว่า มันย่อมเป็นเรื่องที่อยู่บนความเข้าใจที่ดี ที่ต้องเรียนรู้ และไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอให้เราศึกษาหาวิธีการแก้ไขได้พอ วันนี้ในการทำธุรกิจ MLM ก็เหมือนกัน สิ่งที่ต้องรู้ในการรับมือกับการปฏิเสธและข้อโต้แย้งนั้น จัดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องพบเจอ เพราะตราบใดที่ยังต้องทำมาหากินกับธุรกิจ MLM นี้ ดิฉันขอแนะนำให้เข้าใจ และทำตามวิธีการนี้...
· สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงทุก 100 วัน
ถ้าผู้มุ่งหวังพูดว่า "ไม่ " กับคุณในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปฏิเสธคุณตลอดไป มันเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ถ้าเขาพูดว่า "ไม่ " บอกตัวเองว่าเขาเพียงพูดว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม มันสำคัญที่คุณต้องรักษาความเป็นไปได้ไว้ คุณไม่ต้องท้อแท้และปิดโอกาสไปอย่างถาวร แต่ควรพูดในลักษณะว่า " ขอบคุณที่สละเวลาทำความเข้าใจในธุรกิจที่ดิฉันทำอยู่ ดิฉันยังอยากให้คุณเข้ามาร่วมธุรกิจนี้อย่างยิ่ง ดังนั้น ดิฉันจะบอกตัวเองว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ดิฉันหวังว่าคุณจะโทรหาดิฉันเมื่อคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมนะค่ะ " ในขณะเดียวกันก็โทรหาเขาเป็นครั้งคราวอย่างที่บอก
อย่าปล่อยให้ผู้ขายมือใหม่ของคุณ ออกหาผู้มุ่งหวังก่อนที่เขาจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเพียงพอจากคุณ และไม่เพียงแต่พวกเขาต้องเตรียมตัวเตรียมใจกับการถูกปฏิเสธ เน้น! ยังต้องเรียนรู้ถึงการจัดการกับการปฏิเสธด้วย ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นคือ การคัดค้านเล็กน้อย และสิ่งเหล่านี้จะทำลายความมั่นใจ และความเชื่อมั่นของผู้ขายของคุณ การปฏิเสธที่ร้ายที่สุดแท้จริงแล้วกลับมาจากคู่สมรสของเขาเอง ทางออกที่ดีที่สุดคือ ห้ามไม่ให้เขาพูดกับคนอื่นเรื่องโอกาสทางธุรกิจ จนกว่าคุณจะสอนเขาให้มากอย่างเพียงพอ
· ในตอนเริ่มต้น ความเงียบคือโอกาสทอง
· ข้อโต้แย้งเป็นสิ่งที่ดี !
เสียงคัดค้านให้โอกาสคุณเข้าใจกับความกังวลที่อยู่ภายในใจของผู้มุ่งหวัง สถานการณ์ที่แย่กว่าคือ การปฏิเสธที่เขาไม่บอกอะไรคุณเลยนอกจากบอกว่า โอกาสนั้นไม่เหมาะสำหรับเขา ถ้าเจอเข้าแบบนี้คุณยอมไม่สามารถไปทำอะไรต่อได้ แต่สิ่งเดียวที่คุณสามารถทำได้ก็คือ พยายามขจัดการคัดค้านของเขาออกไปก่อน จงพูดดักคอในสิ่งที่เขาจะเอ่ยปากคัดค้าน เช่น " บางคนกล่าวว่านี้เป็นการขายแบบพีระมิด คุณกังวลเรื่องนั้นด้วยหรือไม่ ถ้าใช่ ดิฉันจะชี้แจงความแตกต่างให้คุณฟัง " อีกวิธีหนึ่งลองให้เขาจินตนาการถึงโอกาสธุรกิจว่าเป็นอย่างไร และพยายามแก้ไขภาพนั้นให้ถูกต้อง " คุณมีภาพอะไรอยู่ในใจเมื่อดิฉันบอกเล่าโอกาสทางธุรกิจนี้ให้คุณฟัง ภาพในใจดิฉันตอนรับฟังเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรกคือ การเร่ขายแชมพูตามบ้าน และปฏิกิริยาตอบสนองทันที่ของดิฉันคือ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันต้องการทำ นั่นเป็นความคิดของคุณด้วยหรือเปล่า " ประเด็นคือพยายามทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย จนกล้าที่จะพูดถึงเรื่องความกัลลงวลใจของเขากับคุณ
· ข้อโต้แย้ง : ผมไม่มีเงิน
คำตอบที่เป็นไปได้คือ " นั่นเป็นเหตุผลที่ถูกต้องว่าทำไม่คุณควรจะพิจารณาธุรกิจนี้ ธุรกิจประเภทอื่นอาจต้องการเงินทุนพอสมควร แต่ในการตลาดเครือข่าย คุณใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่ต้องใช้เลย อันที่จริงคุณจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน XXX บาท ในตอนแรกเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นเรื่องของความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ และความเติมใจที่จะอุทิศเวลาให้กับมันมากกว่า "
· ข้อโต้แย้ง : ดิฉันขายไม่เป็นหรอก หรือผมไม่ใช่นักขาย
คำตอบที่เป็นไปได้คือ " เมื่อดิฉันถูกชักนำเข้าสู่ธุรกิจนี้ ดิฉันมีภาพในหัวว่า ดิฉันต้องเดินขายแชมพูตามบ้าน มันเป็นภาพในอดีต อย่างน้อยที่สุดสำหรับดิฉัน เราไม่ขายในลักษณะที่คุณคิดว่าการขายจำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น สิ่งที่เราทำคือ บอกเล่าข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เราชอบ และใช้ส่วนตัวให้คนอื่นฟัง " หรือ " ดิฉันก็ขายไม่เป็นเช่นกัน แต่เรามีวีดีโอและเทปที่อธิบายถึงผลิตภัณฑ์ และช่วยกระตุ้นให้คนซื้อ " หรือ " ให้ดิฉันถามคุณอย่างนี้ดีกว่า ถ้าคุณได้ดูภาพยนตร์ที่ดีๆ สักเรื่องคุณจะบอกเพื่อนคุณไหม แล้วคุณจะทำอย่างเดียวกันถ้าคุณเจอผลิตภัณฑ์ที่คุณชอบหรือไม่ ในทำนองเดียวกัน เราจะบอกต่อถึงสิ่งที่เราชอบในผลิตภัณฑ์ สิ่งนี้ไม่ใช่การขาย นี่เป็นการโฆษณาปากต่อปากมากกว่า "
· ข้อโต้แย้ง : ผมไม่มีเวลาหรอก
· ข้อโต้แย้ง : ผมไม่รู้จักใครสักหน่อย
คำตอบที่เป็นไปได้ " นั่นคือ สิ่งที่บางคนคิด การวิจัยพบว่าคนทั่วไปรู้จักชื่อคนอย่างน้อย 80 คน ถ้าคุณคิดอย่างนี้ ดิฉันแน่ใจว่าคุณต้องรู้จักอย่างน้อย 5 คนที่คุณสามารถคุยด้วยได้ และนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี " หรือ " คุณต้องการรู้จักคนเพิ่มหรือเปล่า ดิฉันว่านี่เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการหาเพื่อนนะ "
· ข้อโต้แย้ง : ขอปรึกษาภรรยาในเรื่องนี้ดูก่อน
คำตอบที่เป็นไปได้ " ดิฉันเองก็ต้องการคุยกับภรรยาคุณในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เมื่อไรดีค่ะ " หรือ " ดิฉันดีใจที่คุณต้องการทำอย่างนั้น แล้วดิฉันก็อยากให้คุณทราบว่า มีคู่สมรสหลายคู่ทำธุรกิจนี้ด้วยกัน พวกเขาต่างสนุกและประสบความสมเร็จไปด้วยกัน ดังนั้น ให้ดิฉันเล่ารายละเอียดคุณอีกเล็กน้อยนะค่ะ
· ข้อโต้แย้ง : นี่เป็นการขายแบบพีระมิดหรือเปล่า
คำตอบที่เป็นไปได้ " ดิฉันเดาว่า คุณกำลังพูดถึงการขายแบบต้มตุ๋นที่เรียกว่าการขายแบบลูกโซ่หรือพีระมิด โดยทั่วไปมันจะมีลักษณะสำคัญ 2 ประการคือ หนึ่ง..ไม่ผลิตภัณฑ์ที่จะขาย หรือมีผลิตภัณฑ์ที่ไร้ประโยชน์ไว้ขาย สอง..ต้องใช้เงินจำนวนมากจ่ายล่วงหน้าก่อนจะได้รับค่าตอบแทนใดๆ บริษัทที่ดิฉันกำลังพูดถึงนี้ ทำธุรกิจถูกกฎหมายและไม่ได้เข้าข่าย 2 ลักษณะข้างต้น "
· ข้อโต้แย้ง : ผมเคยลองทำดูแล้วแต่มันไม่เห็นจะเกิดผลดีกับผมตรงไหนเลย
คำตอบที่เป็นไปได้ " ดิฉันเสียใจที่ได้ยินอย่างนี้ ดิฉันต้องการเรียนรู้จากประสบการณ์คุณ บอกดิฉันได้ไหมว่าอะไรที่มันผิดพลาด ( เปิดโอกาสให้เขาเล่าเรื่อง ) ขอบคุณที่กรุณาเล่าสู่กันฟัง คุณทำให้ดิฉันกระจ่างถึงข้อกังวลที่คุณอาจมี ให้โอกาสดิฉันได้บอกคุณว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เรื่องอย่างนั้นมันเกิดขึ้นอีก หรือไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก " หรือ " ให้ดิฉันถามคำถามคุณขอหนึ่ง แล้วคุณช่วยตอบดิฉันอย่างตรงไปตรงมาได้ไหม ถ้าคุณเป็นวิศวกรที่ชำนาญในการก่อสร้างสะพาน สมสุติว่าสะพานแรกที่คุณสร้างขึ้นเกิดพัง คุณจะพูดไหมว่ามันพัง ซึ่งมันไม่เห็นเเป็นผลดีกับคุณเลย และต่อมาคุณก็ไม่กล้าที่จะสร้างสะพานอีกต่อไป ทีนี้คุณจะไม่ตั้งคำถามเชียวหรือว่าอะไรมันทำให้เกิดความผิดพลาด และเมื่อรู้แล้วก็พยายามทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำสองอีก "
ทุกคำปฏิเสธ และทุกข้อโต้แย้ง ดิฉันเชื่อเสมอว่ามันเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่า ที่ไม่ได้ว่าทุกคนจะมีได้ ถ้าขาดการลงมือทำ จงเริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้แล้วจะรู้ว่า ธุรกิจ MLM นี้ยังมีทางออกของปัญหาอีกมากมายจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น