วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อาชีพเสริม MLM ต้องเริ่มอย่างไร ?

ที่ผ่านมาทุกครั้ง ไม่ค่อยได้เขียนถึงอะไรที่เกี่ยวกับอาชีพเสิรมเลย แต่ครั้งนี้ดิฉันขอสักหน่อย ใครที่ตอนนี้กำลังหาอาชีพเสริมทำ...สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนทำธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นอาชีพเสริมนั้น คุณต้องมีสิ่งเหล่านี้ประกอบด้วย

1. ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำธุรกิจเครือข่าย MLM  เพราะรูปแบบการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ในประเทศไทยมากกว่า 80% นั้นยังเป็นแบบออฟไลน์ที่ต้องเดินทางไปหาลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้า, ต้องมีการจัด Home meeting หรือคลับสุขภาพของสมาชิกในที่ต่างๆ , ต้องมีการชวนคนไปงานประชุมเปิดโอกาสทางธุรกิจ ต้องออกไปเทรนนิ่งตามศูนย์ธุรกิจ และการประชุมนอกสถานที่อยู่เสมอ รวมถึงกิจกรรมที่มีต้นทุนสูงอย่างการซื้อของเพื่อรักษายอด, การทำโฆษณา, การที่ต้องเดินทางเพื่อโปรโมทแผนการตลาด สิ่งที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นสิ่งที่บั่นทอนกำลังกาย และกำลังใจอย่างมากที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย  เมื่อความเหนื่อย ความท้อแท้จากการถูกปฏิเสธสะสมมากขึ้น และความไม่เข้าใจกับหลักการสร้างธุรกิจเครือข่าย MLM ที่ถูกต้องนั้น จะทำให้เกิดโอกาสที่จะล้มเลิกทำธุรกิจเครือข่าย MKM ตั้งแต่ในช่วง 6 เดือน – 1 ปี ก็มีอยู่มาก เพราะฉะนั้นต้องหมั่นเข้าประชุมตามศูนย์เรียนรู้ต่างๆ ให้บ่อยๆ ทุกสัปดาห์ได้จะดีมาก 

2. การแบ่งเวลาในการทำงาน กับเวลาในการสร้างธุรกิจให้ลงตัว  เพราะในแต่ละวันนั้น
คุณใช้เวลา 19 – 20 ชั่วโมงไปกับการทำงานประจำ หรือการเรียนหนังสือ + สิ่งที่ต้องทำเป็นกิจวัตรประจําวัน + การนอนหลับพักผ่อน แล้วคุณมีเวลาแค่ 3 – 4 ชั่วโมง / วัน ซึ่งอาจจะมีเวลาทำงานอย่างจริงจัง แค่ 1- 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากโดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยทำธุรกิจเครือข่าย MLM มาก่อน ไม่รู้ว่าจะวางแผนในการทำธุรกิจของคุณอย่างไร ซึ่งถือว่าคุณเสียเวลาและโอกาสที่มีค่าไปอย่างน่าเสียดายถ้าไม่สามารถจัด แบ่งเวลาที่เหมาะสมได้ในการสร้างธุรกิจให้เติบโต

3. ช่วงเวลาในการเรียนรู้ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เคยทำ ธุรกิจเครือข่าย MLM  มาก่อนนั้น คุณอาจจะต้องมีช่วงเวลาในการเรียนรู้ทักษะ และ ระยะเจ็บตัว ที่ต้องลองผิดลองถูก ที่มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ จากการค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การเรียนรู้วิธีโฆษณา และการทำให้ตัวคุณเองเป็นที่รู้จัก และสิ่งอื่นๆ อีกมากมายเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ถ้าคุณโชคดีได้อัพไลน์ดี หรืออยู่ในทีมที่ขยันและช่วยเหลือ และแบ่งปันความรู้กันคุณก็อาจจะข้ามช่วงนี้ไปได้เร็ว แต่ถ้าคุณโชคร้ายไปเจออัพไลน์มือใหม่  หรือต้องอยู่ในทีมที่รอให้อัพไลน์ป้อนคนให้แล้วคุณแย่แน่ค่ะ

4. สภาวะการแข่งขันในการสร้างธุรกิจทั้งคนในองค์กร และนอกองค์กรของคุณ  ทั้งจากอัพไลน์ระดับสูง หรือดาวน์ไลน์ที่ย้ายมาจากธุรกิจอื่น ที่อาจจะเก่งกว่าคุณ มีฐานลูกค้าเป็นของตัวเอง มีทีมงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้เปรียบคุณไปหมด ซึ่งถ้าคุณทำงานช้ากว่าคู่แข่ง มีทักษะที่อ่อนด้อยกว่าคู่แข่งแล้วโอกาสที่คุณจะขายสินค้าได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ หรือสปอนเซอร์ผู้มุ่งหวังใหม่ๆ  ที่ช่วยให้คุณมีรายได้ตามที่คุณต้องการ หรือการช่วยให้ทีมงานของคุณเติบโตอย่างรวดเร็วแซงหน้าทีมอื่นนั้นก็คงยาก ดังนั้น คุณควรมีเครือข่ายผู้มุ่งหวังที่พร้อมจะซื้อสินค้าประจำอยู่ในมือตลอดเวลาได้ดี ถ้าไม่มีก็ต้องหมั่นหาเก็บไว้

5. คุณมีคนรู้จักที่พร้อมจะเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายของคุณมากแค่ไหน?   เพราะมากกว่า 99% ของการเริ่มต้นสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวังในการทำธุรกิจเครือข่าย MLM จากคนที่คุณรู้จักก่อน เช่น ญาติพี่น้อง, เพื่อนสนิท หรือคนที่ไม่สามารถปฏิเสธคุณได้ ซึ่งอาจจะช่วยให้คุณสปอนเซอร์คนได้เพื่อแลกกับค่าคอมมิชชั่นในตอนเริ่มต้นก็จริง  แต่จะมีคนรู้จักที่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือคุณกี่คนกัน 5 คน…10 คน…20 คน  มาช่วยคุณทุกวัน หรือทุกเดือนต่อไปเรื่อยๆ จนคุณมีรายได้ 6 – 7 หลักต่อเดือนหรือ? การทำการตลาดกับคนรู้จัก ที่ต้องช่วยคุณเพราะความสงสาร โดยที่เขาไม่ต้องการทำธุรกิจเครือข่าย MLM แบบจริงจังแล้ว  โอกาสที่คุณจะสูญเสียความสัมพันธ์อันดีกับคนเขาเหล่านั้นจากการทำให้เขาเสียเงินไปกับการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ย่อมไม่ดีแน่ จึงควรต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ในการแนะนำให้รู้จักสินค้าและธุรกิจเครือข่าย MLM จะดีที่สุด

6. ต้องขายให้เป็น เพราะมันคือ การนำกระแสเงินสดเข้ามาสู่คุณ แต่มันเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณขายในสิ่งที่ผู้มุ่งหวังไม่ต้องการคุณโดนปฏิเสธ คุณขายไม่ถูกที่ ถูกเวลาแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ คุณโดนปฏิเสธและเมื่อคุณโดนปฏิเสธสัก 4-5 ครั้งทุกวันแล้ว คุณก็จะกลัวการออกไปขายสินค้า และเมื่อคุณขายอะไรไม่ได้เลยทุกวันๆ คุณก็จะไม่มีเงิน จนกระทั่งกลายเป็นหนี้ แล้วก็เลิกทำธุรกิจเครือข่าย MLM ไปในที่สุด สิ่งสำคัญหากต้องการเอาชนะการขายสินค้า หรือขายอะไรก็ตาม ตัวคุณต้องได้เรียนรู้วิธีการปิดการขาย หรือวิธีการนำเสนอที่โดนใจให้เป็นก่อนแล้วออกไปขาย

7. คุณมีเครื่องมือ หรือทักษะพิเศษอันใดมาช่วยในการทำธุรกิจเครือข่ายหรือไม่ เพราะถ้าคุณมีทักษะและรู้จักใช้เครื่องมืออย่างบล็อก Blog หรือเว็บไซด์ของคุณเอง หรือทักษะในการทำวิดีโอเพื่อโปรโมทสินค้า หรือทำโฆษณาออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ อย่างเช่น Google Adword, Facebook PPC แล้วคุณประหยัดเงิน และสามารถทำโฆษณาที่ดึงดูดคนที่สนใจเข้ามาหาคุณเองในการโปรโมทโอกาสทางธุรกิจของคุณได้ แต่ถ้าไม่มีต้องรีบเรียนรู้และรีบนำมาใช้ให้ได้ เพื่อผลประโยชน์ที่จะทำให้คุณรวยได้ในอาชีพเสริมนี้
ข้อมูลทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นข้อพิจารณาเบื้องต้นที่ใครสักคนจะคิดทำธุรกิจเครือข่าย MLM นั้นต้องคำนึงถึง หรือถ้าไม่รู้ว่าจะใช้ข้อมูลใดมาใช้ตัดสินใจในการเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย MLM ทั้งในแบบการทำธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นอาชีพเสริม หรือทำแบบเป็นอาชีพหลัก คุณก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ หรือนำไปแบ่งปันกับดาวน์ไลน์ หรืออัพไลน์ของคุณได้ทันที โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ เลยค่ะพี่น้อง

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อีก 1 ต้นกำเนิดของรายได้พิเศษ

ขอย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปีที่ผ่านมาได้..ตอนที่ได้รู้จักกับธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นครั้งแรก ก็ได้เข้าร่วมอบรมในงานนั้นทุกอาทิตย์ ฟังแผนการตลาดจนท่องได้ขึ้นใจเลยหล่ะค่ะ  ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมาก แค่บอกระบบช่องทางรวยให้กับนักการขายทั้งหลาย ระบบแม่ ระบบลูก อัพไลน์ ดาวไลน์ ดาวกระจาย หรือดาวอะไรพวกนั้น ตอนนั้นไม่รู้เลยค่ะว่าเค้าเรียกว่าอะไร  แต่ก็ฟังไอ้เค้าพูดมานะ รู้เรื่องหล่ะค่ะ รู้เรื่องว่าหาดาวไลน์เยอะๆ ดาวไลน์ขายได้เยอะๆ ดิฉันก็ได้เงินจากดาวน์ไลน์  ประมาณว่าเราไม่ขายก็รวยได้ (เพ้อเจ้อเหอะตรงๆ โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยไม่พยายามอย่างแน่นอน จำคำนี้เอาไว้เลยค่ะ มันคือสัจธรรม) ตอนนั้นฟังแล้วตั้งคำถามว่า เชื่อไหม? ดิฉันเฉยๆ มากกว่า แบบว่าบ้านพอมีอันจะกิน (เอ้าคุยอีก 5555) ที่เฉยคือ ไม่รู้ว่าจะเอาเงินมาซื้อบ้าน ซื้อรถทำไมมากมาย (เพราะตอนนั้นเด็กยังไง ยังไม่รู้ว่าบ้านและรถคือ เป้าหมายที่เป็นความต้องการระดับปัจจัยที่ 5 ของคนเลยนะนั่น) แต่ก็รู้หล่ะค่ะว่า ขายของแล้วได้เงิน  แต่ที่สนใจมากกว่านั้นก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาใช้ฟรีๆ นั่นน่ะ ใช้ดีมาก ก็เอาสินค้าตัวนี้ไปแนะนำ ก็ขายได้ทีเดียวหล่ะค่ะ แต่เปอร์เซ็นที่ได้จากการขาย เอาเข้าจริงๆ คือ สมมุติว่าสินค้า 500 บาท ได้ 25% ก็ได้เงิน 125 บาท อยากให้ได้เงินเยอะๆ ก็ต้องขายของแพงๆ แต่ดิฉันยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นะตอนนั้น ขายให้เพื่อนรุ่นเดียวกันเพื่อนไม่มีเงินเยอะมากซื้อเครื่องสำอางราคาสูงกว่า 500 ได้หลายๆ ชิ้นหรอกค่ะ เทียบรายได้แล้ว ตอนนั้นทำงานเสริมพิเศษอยู่ด้วย (ยังเรียนอยู่ แต่รับหลายจ๊อบ)  ได้เงินมาครั้งหนึ่งก็ประมาณหลัก 10,000 บาทหล่ะ  อย่างจิ๊บๆ ช่วยทำงานตอนปิดเทอมอาทิตย์ละ 1,000 บาท แล้วใครจะนั่งพล่ามพูดขายของเปอร์เซนต์ร้อยกว่าบาทอยู่ได้ ใช่เปล่าค่ะ ไม่ได้ดูถูกเงินนะค่ะ  แต่ถ้านับว่าแค่จะให้ได้เงินแล้ว ธุรกิจเครือข่าย MLM กับสินค้าตัวนี้มันไม่ใช่ที่สุดนะค่ะ  แล้วงานพิเศษเราช่วงนั้นเยอะมาก วันละ 500 หาได้แค่กระพริบตาเลยหล่ะค่ะ เราทำนู่นนี่ได้หลายอย่าง รับจ้างสอนหนังสือเด็กก็ได้ รับจ้างเพื่อนทำรายงานก็ทำ  แป๊บๆ ก็ได้ตังค์แล้ว  เลยรู้สึกว่าการขายเครื่องสำอางนี่รายได้จิ๊บมาก (ก่อนหน้านี้ขายเครื่องเงินก็ขายดี แต่ก็เลิก ตอนนี้บรรลุแล้วว่าเราไม่ชอบงานขายอ่ะค่ะ) สุดท้าย ก็เลยเลิกทำธุรกิจเครือข่าย MLM ตัวนั้นไปโดยปริยาย ทำให้มองข้ามอย่างจริงจังในการทำเป็นอาชีพเสริม ที่สร้างรายได้พิเศษไป แต่ตอนนี้เมื่อประสบการณ์ได้สอนตัวดิฉันมากขึ้น ทำให้เกิดแนวความคิดใหม่เพิ่มขึ้นอีก เพราะเทคโนโลยีได้พาไปในรูปแบบใหม่ จึงกลับมาทำในรูปแบบการเพิ่มรายได้พิเศษอีกครั้งหนึ่ง..

ปัจจุบันสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลกับธุรกิจเครือข่าย MLM หลากหลายด้านในชีวิตผู้คนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่เครือข่าย MLM ในประเทศไทยที่จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตต่างมีมากมายจนจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นยุคไซเบอร์เลยทีเดียว ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวันนอกจากช่วยงานธุรกิจ แล้วมี ประโยชน์ทางด้านการสื่อสารต่าง ๆ ประโยชน์ในทางพาณิชย์ เช่น การทำธุรกิจเครือข่าย MLM ประโยชน์ทางสังคมออนไลน์ ประโยชน์ทางด้านวิชาการหรือแม้แต่ประโยชน์ในเรื่องของการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการทำงานภายในสำนักงาน หรือการเจรจาติดต่อธุรกิจต่างๆ รูปแบบการพัฒนาการทำงานแบบใหม่ก็เกิดขึ้น เมื่อการทำงานในสมัยปัจจุบันไม่ได้มีแต่งานประจำ หรืองานราชการที่ต้องออกจากบ้านไปทำงานที่สำนักงานเท่านั้น แต่ด้วยประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต ผู้คนต่างๆ สามารถทำงาน หรือทำการค้าขาย ทำธุรกิจเครือข่าย MLM ผ่านอินเตอร์เน็ตได้หลายช่องทาง รูปแบบธุรกิจออนไลน์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครือข่าย MLM หรือธุรกิจ E-Commerce ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกลางสร้างรายได้ประจำหรือรายได้พิเศษจากอินเตอร์เน็ตที่อยู่ในบ้าน นอกเหนือจากการพบปะกันเป็นบุคคลหรือคณะ หรือแม้แต่ดำเนินธุรกิจเครือข่าย MLM จากอินเตอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว

นอกเหนือจากผู้ที่อยู่ในวัยทำงานแล้ว สำหรับนักเรียนนักศึกษา การทำงานเสริมธุรกิจเครือข่าย MLM บนอินเตอร์เน็ตยังเป็นทางเลือกใหม่ในการหารายได้พิเศษที่ไม่กระทบการเรียน และใช้เวลาไม่มากนักในการทำเหล่านี้ การทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตด้วย ธุรกิจเครือข่าย MLM จึงกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต เพราะสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการโดยไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ค่าดำเนินการต่างๆ ของธุรกิจเครือข่าย MLM ที่อาจลดผลกำไรลงได้คนไทยรุ่นใหม่ในยุคสมัยออนไลน์เช่นนี้ จึงควรศึกษางานธุรกิจเครือข่าย MLM ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตต่างๆ เอาไว้เพื่อประโยชน์ของตนเองในอนาคต โดยอาจเริ่มธุรกิจเครือข่าย MLM จากการทำเป็นงานพิเศษตั้งแต่ที่ยังเป็นนักศึกษาเพื่อหารายได้พิเศษแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง จากนั้นก็ทำธุรกิจเครือข่าย MLM ออนไลน์เป็นงานเสริมในช่วงที่ทำงานประจำเพื่อเป็นแหล่งรายได้เสริม และเรียนรู้กระบวนการธุรกิจออนไลน์ต่างๆ ก่อนจะนำมาประกอบอาชีพอย่างจริงจังในอนาคตก็ได้ เพียงเท่านี้ การหางานรายได้พิเศษ หรือธุรกิจเครือข่าย MLM ที่สามารถทำได้ที่บ้าน มีเวลาเป็นของตัวเอง และเป็นเจ้านายของตัวเองก็จะไม่เป็นแค่ความฝันอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นความจริงที่คนรุ่นใหม่ทุกคนต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ เพื่อปรับตัวให้ทำงานและมีชีวิตอยู่กับโลกออนไลน์ในอนาคตได้อย่างมีความสุขและมั่นคงทั้งตนเอง ครอบครัว สังคม และชุมชนโลกที่ยังคงพัฒนาไปอย่างไม่สิ้นสุด ธุรกิจเครือข่าย MLM ช่วยให้เราได้เรียนรู้ ปรับตัวและช่วยพัฒนาโลกนี้ให้ก้าวต่อไปอย่างงดงาม มีประโยชน์ต่อลูกหลาน และสังคมการทำงานที่ไม่หยุดยั้งต่อไปในอนาคต โดยถือเป็นต้นกำเนิดอีก 1 อาชีพของรายได้พิเศษที่ควรต้องทำจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สุดยอดนักธุรกิจ MLM เชิญ...(อ่าน)

คุณคิดว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ในระดับผู้นำองค์กร ที่มีรายได้ 4-6 หลัก /เดือน หรือมีรายได้ 6-8 หลัก /ปี นั้นจะเป็นนักธุรกิจเครือข่าย MLM แบบเต็มเวลา หรือเป็นคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพเสริมมากกว่ากัน ? สิ่งที่เราจะได้เห็นและได้ยินเสมอกับการ " ทำธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นอาชีพเสริม ( MLM Business Part time) " ทั้งจากโฆษณา อย่างเช่น
  • นักศึกษาปี 1 มีรายได้หลักหมื่นกับการทำธุรกิจ…ใครๆ ก็ทำได้
  • เป็นแม่บ้านทำงานวันละ 2-3 ชั่วโมง มีรายได้หลักแสนกับธุรกิจ…
  • ไม่ต้องชวนคน…ไม่ต้องขายสินค้า ก็รับรายได้ 5 หลักต่อเดือน
หรือจากคำบอกเล่าของผู้ที่ประสบความสำเร็จ(หน้าเดิมๆ) ที่มายืนและแบ่งปันประสบการณ์ อยู่หน้าเวทีซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วก็มีประมาณ 0.1% – 1% ของนักธุรกิจเครือข่าย MLM ทั้งบริษัท ที่จะประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพเสริม ถ้าคุณศึกษาเกี่ยวกับนักธุรกิจเครือข่าย MLM ที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ หรือระดับชาตินั้นจะพบว่า ผู้ที่ทำธุรกิจเครือข่ายแบบเต็มเวลานั้น..สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ดีกว่าผู้ที่ทำธุรกิจเครือข่ายทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์เป็นอาชีพเสริมก็จริง แต่ทุกคนก็ต้องเริ่มต้นจากจุดเดียวกันกับการทำธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นอาชีพเสริมก่อน  ซึ่งในวันนี้ตอนนี้ดิฉันมีปัจจัยที่เป็นทักษะสำหรับคนที่ต้องการจะเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจเครือข่าย MLM จากอาชีพเสริมมาเป็นอาชีพหลัก ดิฉันขอให้คิดพิจารณาก่อนเข้าร่วมทำธุรกิจเครือข่ายกับบริษัทใดก็ตามว่า มีครบตามนี้หรือไม่ ถ้ามีได้ถือว่า " ยอดเยี่ยม "  และการที่จะเป็นนักธุรกิจเครือข่าย MLM มืออาชีพนั้นจะประกอบไปด้วย...
1. เพิ่มความเชี่ยวชาญในการขาย (Sales skill)  เพราะรายได้จะไม่เกิดขึ้นถ้าคุณขายสินค้า ขายโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ที่ต้องการไม่ได้ คุณต้องค้นหาสูตรสำเร็จ และเทคนิคในการขายสินค้า ขายโอกาสทางธุรกิจของคุณให้เจอ ขายแนวความคิด และใช้ทักษะนั้นให้ชำนาญ ดิฉันรู้ว่าการที่จะต้องออกไปยืดอกเผชิญหน้ากับคำถามบาดใจที่ตอบยากเหลือเกินจากผู้มุ่งหวัง หรือการต้องพูดหว่านล้อมโชว์แผน โชว์สินค้าจนเหนื่อยแต่สุดท้ายโดนปฏิเสธจากลูกค้า นั้นคือฝันร้ายที่ “นักธุรกิจเครือข่าย” ทุกคนกลัวที่ต้องเผชิญหน้าเหตุการณ์เหล่านี้

2. เพิ่มความเชี่ยวชาญในเรื่องการสปอนเซอร์ผู้มุ่งหวัง (Recruiting) นั้ันช่วยให้คุณขยายธุรกิจเครืิอข่ายของคุณให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และเพิ่มรายได้ทั้งทางตรงจากคอมมิชชัน และทางอ้อม เช่น Passive Income จากลูกทีมที่คุณสปอนเซอร์ได้ แม้ Passive Income หัวอาจจะไม่มาก แต่การมีคน 100 คน สร้างรายได้ให้คุณนั้นทำให้ตัวเลขในบัญชีของคุณเพิ่มขึ้นหลายเท่า หรือคุณมีเงินต่อยอดธุรกิจโดยไม่ต้องควักเงินตัวเองเลยก็ได้ ความสำเร็จนั้น สร้างจากทักษะที่ฝึกฝนมาอย่างดี มากกว่าโชคช่วย

3. เพิ่มความเชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการ (Organizing)  จัดการวางแผนเพื่อสร้างระบบการทำงานที่ทำงานให้คุณได้อัตโนมัติ จัดแบ่งเวลาทำงานที่เหมาะสมในแต่ละกิจกรรม (Task) ในตอนแรกคุณอาจจะแบ่งเวลาในการทำงานไม่ถูกว่าตอนนี้ทำอะไรดี ระหว่างโปรโมทแผนการตลาด การทำโฆษณา หรือจะออกไปพบลูกค้า หรือจะโทรไปสปอนเซอร์ผู้มุ่งหวังดี หรือนั่งทำงานออนไลน์ สิ่งที่คุณต้องจำไว้ก็คือ จงกำหนดระยะเวลาตายตัวในการทำแต่ละกิจกรรม และที่สำคัญคือ จงหาเวลาเรียนรู้และพัฒนาทักษะของคุณเองประจำด้วย…

4. เพิ่มความเชี่ยวชาญในเรื่องการทำการตลาด และการทำโปรโมชั่น (Promotion) เพื่อโปรโมทแผนการตลาด ทำโปรโมชั่นสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจ และโปรโมทตัวคุณ (Personal Branding) เพื่อให้ตัวคุณเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจเครือข่าย MLM ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์  ทำตัวเป็นผู้นำที่ใครก็ต้องการเข้าหา  วางแผนการตลาดและการมีโปรโมชั่นดีๆ ออกมาเสมอนั้น จะทำให้ตัวคุณและโอกาสทางธุรกิจของคุณอยู่ในความทรงจำของผู้มุ่งหวังอยู่เสมอ

5. สร้างการเป็นที่ยอมรับในความเป็นผู้นำจากสังคม (Reconition) เมื่อใดที่คุณได้รับการยอมรับจากในวงการธุรกิจเครือข่าย MLM (ในเรื่องที่ดี) นั้นทำให้คุณกลายเป็นผู้นำที่มีบารมีในโลกธุรกิจเครือข่าย MLM ที่ถูกห้อมล้อมจากลูกค้า หรือผู้มุ่งหวังที่ต้องการร่วมงานกับคุณ เพราะชื่อเสียงของคุณจะทำให้คุณ กลายเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือจิตใจผู้มุ่งหวังนั้นเอง ใครๆ ก็อยากเข้าหา เข้าพบเสมอ

6 เพิ่มความเชี่ยวชาญในเรื่องการติดต่อสื่อสาร (Communication) การสื่อสารที่เหมาะสม ตรงประเด็น และเป็นประโยชน์กับผู้รับสารนั้นทำให้คุณเข้าไปอยู่ในใจผู้มุ่งหวัง ลูกค้า และดาวน์ไลน์ได้อย่างไม่ยาก  เพราะคำพูดที่ดีและการสื่อสารในรูปแบบที่ถูกต้องนั้น จะกระตุ้นโน้มน้าวให้คนทำงานได้อย่างลืมเหนื่อยตายให้เราได้ฉันใด คำพูดที่ไม่ไตร่ตรองให้ดีก็คือ สิ่งที่ฆ่าตัวเราเองได้เช่นกันฉันนั้น

ดังนั้น ใครที่สามารถมีการเพิ่มทักษะให้ครบทั้ง 6 ข้อตามที่ดิฉันได้แบ่งปันให้นี้ นับเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะมันมาจากประสบการณ์ตรงในการสร้างธุรกิจ MLM ให้ประสบความสำเร็จได้จริง จากคนที่เคยประสบปัญหาล้มเหลวจนเกือบหมดตัว แล้วพลิกชีวิตให้กลับมาประสบความสำเร็จอีก ซึ่งเมื่ออ่านจบคุณจะเลือกพัฒนาเพิ่มทักษะตัวไหนก่อนก็ได้ แต่จะให้ดีที่สุด..จงพัฒนาและหล่อหลอมทักษะเหล่านี้ทุกตัวไปพร้อมๆ กัน เพราะอนาคตสิ่งเหล่านี้มันจะเปลี่ยนคุณให้กลายเป็น สุดยอดนักธุรกิจเครือข่าย MLM  ระดับประเทศก็ได้..ใครจะรู้

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

นี่หรือ คือ กฎแห่งความสำเร็จ (ที่ดี)

วันนี้ดิฉันอยากจะมาพูดถึงการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ให้ประสบความสำเร็จว่า ต้องทำเช่นไร เพราะถ้าคุณยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะการลงมือทำ หรือลงมือทำทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม คุณย่อมไม่สามารถสร้างผลลัพธ์จากการทำธุรกิจเครือข่ายได้แบบที่คุณต้องการได้  ดังนั้นถ้าคุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจน คุณย่อมมีการลงมือทำที่ถูกต้องที่จะทำให้คุณสามารถสร้างผลลัพธ์ และประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายได้ตามที่คุณต้องการได้รับจากการทำธุรกิจเครือข่าย MLM อย่างแน่นอน การทำธุรกิจเครือข่าย MLM ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป บางคนเมื่อมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ก็รีบไปชักชวนผู้คนเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย MLM กับตนเองอย่างเร็วที่สุด โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตนเองจะมีความพร้อมหรือไม่อย่างไร หรือบางคนก็อาจจะใช้เวลามากมายในการเรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ ของการทำงานในธุรกิจเครือข่ายแต่ไม่ออกไปลงมือทำ แต่ถึงอย่างไรถ้าเรียนรู้แต่ไม่ลงมือ ย่อมไม่มีวันได้รับผลลัพธ์จากธุรกิจเครือข่ายMLM ได้ และด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงอยากจะบอกกระบวนการของการลงมือทำ ที่คุณจำเป็นต้องรู้ โดยดิฉันเชื่อว่าหลายๆ คนคงทราบมาบ้างแล้วนั่นก็คือ การเตรียมพร้อม การวางแผน และลงมือทำ หรือถ้าเปรียบเทียบกับการยิงธนูก็จะเป็นการเตรียมพร้อม เล็ง และยิงนั่นเอง แต่นั่นเป็นวิธีการของคนทั่วไปที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ work เลย และน้อยคนที่จะสามารถประสบความสำเร็จด้วยวิธีการดังกล่าวได้ เพราะหลายๆ คนมีแต่เล็ง แล้วก็เล็ง แล้วก็เล็ง แต่ไม่มีการลงมือทำเสียที ดังนั้นผลลัพธ์ก็ไม่มีวันเกิดขึ้นได้เพราะขาดการลงมือทำนั่นเอง

ดิฉันจึงอยากจะนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ของการลงมือทำ เพื่อที่จะทำให้คุณได้รับผลลัพธ์จากการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ตามที่คุณหวังไว้ นั่นก็คือ เตรียมพร้อมลงมือทำ และวางแผน ซึ่งคุณบางคนอาจจะแปลกใจว่า ทำไมจึงไม่วางแผนก่อนลงมือทำ สาเหตุนั้นก็เพราะว่าเมื่อคุณเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย MLMใหม่ๆ คุณอาจจะไม่มีความรู้มากเพียงพอที่จะวางแผนต่างๆ ให้ได้ประสิทธิภาพ ดังนั้น ถึงแม้คุณจะเสียเวลาในการวางแผนนานเพียงใด แผนที่ออกมานั้นก็อาจจะยังไม่ได้ผล แต่ถ้าคุณมีการลงมือทำ ถึงแม้ว่าจะพลาด หรือไม่ได้ผลลัพธ์ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รู้ว่าสิ่งใด work หรือไม่ work และทำให้คุณสามารถนำสิ่งเหล่านั้นไปวางแผนเพื่อลงมือทำต่อไปในครั้งหน้าได้ นั่นเอง ลงมือทำเถิดค่ะ แต่ขอให้คุณอย่าได้ท้อ อย่าได้ล้มเลิก ยิ่งคุณลงมือทำมาก ตัวคุณก็จะขยายใหญ่ออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุด คุณจะสามารถทำเป้าหมายของคุณให้เป็นจริงได้อย่างแน่นอน อย่ามัวแต่รีรอกับการวางแผนและวางแผน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว แผนนั้นอาจจะไม่ work กับชีวิตคุณเลยก็เป็นได้

นอกจากนี้ดิฉันอยากจะขอให้กฎเพื่อความสำเร็จเพิ่มอีกก็คือ กฎ 6 ประการเพื่อการประสบความสำเร็จ ที่ดิฉันได้เรียนรู้มาจากโค้ชผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเมื่อดิฉันได้เรียนรู้มา ดิฉันก็ได้นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตของดิฉัน และสามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างเป็นที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะแบ่งปันกฎ 6 ประการนี้ เพื่อที่คุณจะได้สามารถนำไปใช้ในการทำธุรกิจเครือข่าย MLM ของคุณ ให้ประสบความสำเร็จเทียบเท่าที่คุณต้องการให้จงได้ และถ้าคุณใช้กฎนี้กับชีวิต และการทำธุรกิจเครือข่ายของคุณ ดิฉันรับรองได้เลยว่าคุณจะประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย MLM แน่นอน
กฎข้อที่ 1 รู้ถึงจุดมุ่งหมายของตัวคุณเอง
ก่อนที่คุณจะลงมือทำสิ่งใดๆ ก็ตาม คุณจะต้องรู้ให้ชัดเจนก่อนว่า จุดมุ่งหมายของคุณคืออะไร สิ่งใดเป็นตัวผลักดันคุณให้ทำธุรกิจเครือข่าย MLM คุณจำเป็นต้องใช้เวลาในการนั่งสรุปจุดประสงค์ของคุณ และเมื่อคุณมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน คุณก็จะเกิดความชัดเจนในการมุ่งไปข้างหน้า และที่สำคัญก็คือคุณจะมีพลังผลักดันตัวคุณให้เกิดการลงมือทำอย่างมหาศาล เพราะความชัดเจนคือ พลังที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง

กฎข้อที่ 2 สร้างแผนการทำงาน
การสร้างแผนงานนั้น เป็นการที่คุณจะสามารถตรวจสอบการลงมือทำของตัวคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งที่ผิดหรือถูก แผนงานก็จะสามารถช่วยคุณให้รู้ถึงตำแหน่งของตัวคุณได้ แต่แผนงานนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีรายละเอียดทุกๆ อย่างก็ได้ แต่คุณจะต้องรู้ว่าเมื่อใด คุณควรมุ่งความสนใจไปในการทำสิ่งใดกันแน่ และเมื่อการวางแผนของคุณทำได้อย่างดี ความสำเร็จของคุณจะค่อยๆ เติบโตๆ มากขึ้นเรื่อยๆ

กฎข้อที่ 3 ตระหนักถึงอุปสรรคที่รอคุณอยู่
การที่คุณจะสามารถประสบความสำเร็จได้ คุณจะต้องตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่จะมีอุปสรรคมารอขวางกั้นคุณ และคุณต้องรู้ล่วงหน้าก่อนว่าอุปสรรคนั้นคืออะไร เพราะคุณจะได้สามารถเตรียมการรับมือกับอุปสรรคนั้นได้ทัน แต่ถ้าคุณไม่มีการเตรียมการรับกับอุปสรรคนั้นๆ เลย คุณอาจจะถูกอุปสรรคนั้นทำให้คุณล้มเลิกในเป้าหมายของคุณก็เป็นได้

กฎข้อที่ 4 เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ
Success breed success หรือความสำเร็จเล็กๆ จะสร้างความสำเร็จขนาดใหญ่ให้ตามมา ให้คุณเริ่มจากการเฉลิมฉลองการสร้างความสำเร็จ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น คุณตื่นเช้าไปทำงานตรงตามเวลา หรือเรื่องอะไรก็ได้ที่ให้พลังงานกับคุณ เมื่อคุณเริ่มสร้างนิสัยการเฉลิมฉลองความสำเร็จ หลังจากนั้นความสำเร็จก็จะเข้ามาหาคุณมากขึ้นและมากขึ้น

กฎข้อที่ 5 กล้าตัดสินใจ และทำตัวเองเป็นผู้เล่น ไม่ใช่ผู้ชมข้างสนาม
กล้าที่จะตัดสินใจถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเผชิญกับการล้มเหลวก็ตาม และนอกเหนือจากนั้น อย่ากลัวที่จะเสี่ยงในกรณีที่มีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะถ้าคุณผิดพลาดมากเท่าใด และหลังจากนั้นคุณจะได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น คุณก็จะมีประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น

กฎข้อที่ 6 อย่ายอมแพ้
ให้คำสัญญากับตัวคุณว่าจะสู้จนถึงที่สุด ไม่ยอมแพ้กับปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ และถ้าคุณไม่ยอมแพ้ และกัดฟันสู้ต่อไป คุณจะเข้าใกล้กับการประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย MLM ได้อย่างแน่นอน

ถ้าคุณนำกฏ 6 ข้อนี้มาใช้ในชีวิตการทำงานอย่างเคร่งครัด ดิฉันคิดว่าคุณก็จะสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย MLM ได้อย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สูตรนี้ (ผู้นำ) MLM..เขาใช้กันนะ

เมื่อก่อนตอนเข้ามาทำธุรกิจ MLM นี้ ก็ไม่เคยคิดว่า ธุรกิจนี้จะมีสูตรอะไรกับเขาด้วย แต่พอเข้ามาได้สักระยะหนึ่ง ปรากฏว่า มีสูตรมากมายเพื่อที่จะทำให้สำเร็จในธุรกิจ และนี่ก็เป็นสูตรหนึ่งในหลายๆ สูตรที่จะนำมาให้ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในธุรกิจเครือข่าย MLM ได้รู้ไว้ว่า แผนการตลาดเครือข่าย MLM นั้นสร้างความร่ำรวย ความมั่งคั่งได้จริง และเป็นทางเลือกเดียวสำหรับคนที่มีความฝันอยากสร้างเนื้อสร้างตัว ให้ร่ำรวยเป็นเจ้าสัว เป็นมหาเศรษฐีภายในชาตินี้  แต่ขาดปัจจัยสำคัยคือ ไม่มีเงินมากพอที่จะลงทุน แต่สวรรค์ไม่ไร้ความปราณี  มีหนทางเสมอสำหรับผู้มองหาโอกาส จึงได้มีผู้คนสมัครเข้าทำธุรกิจเครือข่าย MLM อย่างมากมาย เพราะหวังว่าจะร่ำรวยเหมือนผู้นำ ที่เขาประกาศความสำเร็จบนเวทีว่า มีรายได้หลักแสน หลักล้าน มีอิสระภาพด้านการเงิน และเวลา สามารถซื้อสิ่งต่างๆ ที่ต้องการโดยไม่ต้องถามหรือต่อรองราคา สามารถไปเที่ยวไหนเวลาใดก็ได้เท่าที่ต้องการ โอ้ว! แม่เจ้า...เมื่อมีโอกาสมาลอยอยู่ตรงหน้าไม่รับก็บ้าแล้ว แต่! เดี๋ยวก่อนคุณทั้งหลาย คุณรู้ไหมว่า..คนที่มีรายได้หลักแสน หลักล้านในธุรกิจเครือข่ายนั้น เขามีคุณสมบัติอย่างไร ?
สิ่งที่พวกเขามีคือ “ความเป็นผู้นำ” เพราะธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นธุรกิจของผู้นำ หากคุณยังไม่เป็นผู้นำ ความฝันที่จะมีรายได้หลักแสน หลักล้านก็ยังเป็นความฝันลมๆ แล้งอยู่ เออ…นั่นสิแล้วฉันจะเป็นผู้นำได้อย่างไร ? หลายคนมีความสงสัย

ที่มาของผู้นำ การเกิดมาเป็นผู้นำ บางทีสภาพแวดล้อมเป็นตัวบ่มเพาะให้เกิดมาอยู่ในตระกูลผู้นำ เข้า อนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ได้เป็นหัวหน้าชั้นมาตลอด อยู่ในชุมชนก็เป็นหัวหน้าชุมชนมาตลอด จึงสภาวะมีความเป็นผู้นำโดยอัตโนมัติ โหย! หลายคนเริ่มถอดใจ แต่อย่างที่บอกมีหนทางเสมอสำหรับผู้ไม่ยอมจำนน คือ  ”สูตรการสร้างผู้นำในธุรกิจเครือข่าย”  ผู้นำในธุรกิจเครือข่าย MLM ที่แท้จริงคือ ผู้ที่สามารถกระตุ้นจูงใจให้ลูกทีมที่ทำงานด้วยความต้องการของเขาเอง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครคนหนึ่งจะทำตามใครสักคน อยู่ดีๆ จะสั่งให้ทำตาม จึงจำเป็นต้องทำตามหลักสูตร
” ทำตามที่ผู้นำทำการบรรยาย  การสอนทีมงาน วินัยการทำงาน การแสดงออก คุณทำได้เหมือนผู้นำ คุณก็มีรายได้เหมือนผู้นำ” ส่วนแบบแผนนำไปสู่ความสำเร็จนี้ ต้องทำให้เขาเชื่อถือศรัทธา ไว้ใจ ในตัวคุณ แล้วเขาจะทำตามโดยไม่มีเงื่อนไข รายละเอียดนี้คือ สูตรการสร้างผู้นำในธุรกิจ MLM  " 5 ส. + 5 พ. " มีรายละเอียด ดังนี้
5 ส.
1. สู้   ประกาศเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วสู้ให้เต็มความสามารถเพื่อให้ถึงเป้าหมาย
2. สร้าง คุณต้องเริ่มสร้างทีมงานองค์กรเครือข่ายของคุณเอง โดยเริ่มจาก 1-2-3-4…อย่าไปรอความ หวังว่าจะมีใครมาสร้างให้คุณ (ไม่มีทาง) ข้อดีของแผน การตลาดแบบเครือข่ายที่ให้บริหาร สอง สายงาน เป็นโอกาสดีที่เราจะหาผู้นำในสองข้างนี้ให้ได้ แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือคนที่เข้ามาไม่ได้ work ทุกคนเราจึงต้องสร้างต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบผู้นำที่แท้จริง วิธีการที่ดีที่สุด ในการสร้างทีมคือ การยอมรับและยกย่อง เพราะคนที่ยังไม่มีเกียรติยศเงินทองมาก สิ่งที่ต้องการคือ การยอมรับ
3. ส่งเสริม เมื่อพบผู้ที่พร้อมจะทำงาน หรือผู้นำในทีมแล้ว ให้เราส่งเสริมทุกรูปแบบทำงานร่วมกับเขา
4. สอน ทัศนคติถ่ายทอดประสบการณ์ เทคนิคการเอาชนะอุปสรรค ให้ความรู้ สอนวิธีขั้นตอน กระบวน
    การทำงาน ทำให้เขาดู ให้เขาทำให้ดู ประเมินผล ให้คะแนน
5. (ประ)สานคือ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในที่มเรียนในสิ่งเดียวกัน ทำในสิ่งเดียวกัน สอนในสิ่งเดียว
    กัน

5 พ.
1. พลัง การสร้างพลังให้ลูกทีมได้ดีที่สุดคือ การมีกิจกรรมร่วมกันสร้างเสริมพลังในกลุ่ม ให้บอกว่า
    ภูมิใจในตัวเขา และถามความเห็นที่จะสร้างพลังพัฒนาทีม
2. พยายาม ต้องวางแผนงาน ทิศทางที่ไปสู่เป้าหมาย ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
3. พึ่งพาตนเอง ชนะใจตนเอง มีวินัยในการทำตามแผนงาน  ต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นเสมอๆ ในทุกๆ เรื่อง
4. พึ่งพาคนอื่น ให้เกียรติยกย่องคนอื่นโดยการมอบหมายให้รับผิดชอบงานในขอบเขตที่จะช่วยเหลือกันได้
5. พึ่งพาซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือ ซึ่งกันและกันในขอบเขตความสามารถทำได้

ดิฉันขอย้ำว่า..ธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นธุรกิจของผู้นำ เพราะผู้นำเท่านั้นที่จะสร้างรายได้หลักแสน หลักล้านได้อย่างแท้จริง เมื่อคุณเข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย สิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย และจะต้องก้าวข้ามผ่านให้ได้  คือ การเป็นผู้นำ การเป็นผู้นำสามารถฝึกฝน เรียนรู้ พัฒนาได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การเลียนแบบคนที่เป็นผู้นำ เช่น คุณทำธุรกิจเครือข่าย MLM คุณก็ดูว่าผู้นำท่านใดที่คุณศรัทธาแล้ว เอาอย่างเขาให้มากที่สุดในแบบสไตล์ของคุณเอง ผู้นำทำอย่างไรให้คุณทำตามทุกอย่าง และที่สำคัญคุณจะมีข้อได้เปรียบคนอื่นเนื่องจากคุณได้รู้เกี่ยวกับ สูตรสำเร็จในการเป็นผู้นำที่มีศักภาพไร้เทียมทาน  " 5 ส. + 5 พ. " อยู่แล้ว จึงขอให้สบายใจได้ว่า คุณคือ ผู้สำเร็จแล้วอย่างแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ทำอย่างไร เอาชนะความกลัว...เครียด...กังวล ได้

นี่ก็เดือนตุลาคมเข้าไปแล้ว วันเวลาช่างเร็วจริงๆ ค่ะ และตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้ทางธุรกิจเครือข่าย MLM Online เพิ่มเติม รวมถึงความรู้ด้านเทคนิคต่างๆ ที่ดีๆ หลายอย่าง เพื่อที่จะนำมาบอกเล่าให้เพื่อนนักธุรกิจเครือข่าย MLM ฟังความรู้ใหม่ๆ จากการเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่ายระบบใหม่ ทุกวันนี้ธุรกิจเครือข่าย MLM มีการแข่งขันกันรุนแรงและดุเดือดมาก ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ทันสมัยและมากพอที่จะได้ตัดสินใจเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ และสร้างความได้เปรียบซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง หากต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ และเรื่องราวดีๆ ในวันนี้ก็เป็นพื้นฐานอย่างหนึ่ง ที่คนที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์  MLM Online จะต้องมี จะต้องสร้างต้องฝึกความอดทนทางใจด้วยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของ ความกลัว ความเครียด ความกังวล มันคือ อุปสรรคสกัดกั้นความสำเร็จของคุณ  ซึ่งต้องเราใช้ความคิดของเราเอาชนะมันให้ได้
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะพูดและคิดว่า จะไม่เลิกและจะไม่ละความพยามยาม คำพูดและความคิดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจ ที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จเนื่องจากเป็นความคิดในแง่บวก การป้อนข้อมูลที่เกี่ยวกับความสำเร็จเข้าไปในความคิดเราเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลดีด้านบวกให้กับเรา และอีกอย่างเราเองก็ต้องลบข้อมูลด้านลบ ออกไปจากความคิดเราด้วย การฝึกคิดแต่ด้านดีจะทำให้เรามีแต่พลังด้านบวก ให้ความคิดเรานั้นอยู่สูงกว่า ความกลัว ความเครียด ความกังวล เพราะสิ่งเหล่านี้คือ อุปสรรคตัวร้าย ในการที่เราจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ เราต้องปรับความคิดเพื่อเอาชนะ สิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ ไม่มีใครที่จะเป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเป็นไม่ได้
คุณจะต้องพยายามที่จะไปในสิ่งที่คุณตั้งใจไว้ให้ได้ด้วยความคิด ความสามารถ และทัศนคติที่ดีของคุณ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณไปถึงจุดมุ่งหมายในชีวิตของคุณได้ แต่ทุกอย่างนั้นก็จะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของมัน แต่ถ้าการกก้าวข้ามขั้นตอนจะทำให้คุณไปถึงจุดหมายเร็วขึ้น มันก็น่าจะลองสู้และเสี่ยงดูสักตั้ง ดิฉันขอเป็นกำลังใจ เป็นที่ปรึกษาคอยให้แนวทางที่ดี เพื่อจะได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด สู้ๆ ค่ะเพื่อนนักธุรกิจเครือข่าย MLM มืออาชีพ

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การถูกปฏิเสธและมีข้อโต้แย้ง เป็น...(เรื่องธรรมชาติ)

เรื่องธรรมชาติคือ เรื่องที่เป็นปกติ เรื่องที่เป็นปกติคือ เรื่องที่ใครๆ เขาก็ทำ ใครๆ เขาก็พบเจอ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นธรรมชาติแล้ว ดิฉันคิดว่า มันย่อมเป็นเรื่องที่อยู่บนความเข้าใจที่ดี ที่ต้องเรียนรู้ และไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอให้เราศึกษาหาวิธีการแก้ไขได้พอ วันนี้ในการทำธุรกิจ MLM ก็เหมือนกัน สิ่งที่ต้องรู้ในการรับมือกับการปฏิเสธและข้อโต้แย้งนั้น จัดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องพบเจอ เพราะตราบใดที่ยังต้องทำมาหากินกับธุรกิจ MLM นี้ ดิฉันขอแนะนำให้เข้าใจ และทำตามวิธีการนี้...
·         สิ่งต่าง ๆ  เปลี่ยนแปลงทุก  100  วัน
ถ้าผู้มุ่งหวังพูดว่า  "ไม่ " กับคุณในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปฏิเสธคุณตลอดไป มันเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ถ้าเขาพูดว่า  "ไม่  " บอกตัวเองว่าเขาเพียงพูดว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม มันสำคัญที่คุณต้องรักษาความเป็นไปได้ไว้  คุณไม่ต้องท้อแท้และปิดโอกาสไปอย่างถาวร  แต่ควรพูดในลักษณะว่า  "  ขอบคุณที่สละเวลาทำความเข้าใจในธุรกิจที่ดิฉันทำอยู่  ดิฉันยังอยากให้คุณเข้ามาร่วมธุรกิจนี้อย่างยิ่ง ดังนั้น ดิฉันจะบอกตัวเองว่านี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ดิฉันหวังว่าคุณจะโทรหาดิฉันเมื่อคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมนะค่ะ "  ในขณะเดียวกันก็โทรหาเขาเป็นครั้งคราวอย่างที่บอก

·         ในตอนเริ่มต้น  ความเงียบคือโอกาสทอง
อย่าปล่อยให้ผู้ขายมือใหม่ของคุณ ออกหาผู้มุ่งหวังก่อนที่เขาจะได้รับการฝึกอบรมอย่างเพียงพอจากคุณ และไม่เพียงแต่พวกเขาต้องเตรียมตัวเตรียมใจกับการถูกปฏิเสธ เน้น! ยังต้องเรียนรู้ถึงการจัดการกับการปฏิเสธด้วย ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นคือ การคัดค้านเล็กน้อย และสิ่งเหล่านี้จะทำลายความมั่นใจ และความเชื่อมั่นของผู้ขายของคุณ การปฏิเสธที่ร้ายที่สุดแท้จริงแล้วกลับมาจากคู่สมรสของเขาเอง ทางออกที่ดีที่สุดคือ ห้ามไม่ให้เขาพูดกับคนอื่นเรื่องโอกาสทางธุรกิจ จนกว่าคุณจะสอนเขาให้มากอย่างเพียงพอ
·         ข้อโต้แย้งเป็นสิ่งที่ดี !
เสียงคัดค้านให้โอกาสคุณเข้าใจกับความกังวลที่อยู่ภายในใจของผู้มุ่งหวัง สถานการณ์ที่แย่กว่าคือ การปฏิเสธที่เขาไม่บอกอะไรคุณเลยนอกจากบอกว่า โอกาสนั้นไม่เหมาะสำหรับเขา ถ้าเจอเข้าแบบนี้คุณยอมไม่สามารถไปทำอะไรต่อได้ แต่สิ่งเดียวที่คุณสามารถทำได้ก็คือ พยายามขจัดการคัดค้านของเขาออกไปก่อน  จงพูดดักคอในสิ่งที่เขาจะเอ่ยปากคัดค้าน เช่น " บางคนกล่าวว่านี้เป็นการขายแบบพีระมิด คุณกังวลเรื่องนั้นด้วยหรือไม่  ถ้าใช่ ดิฉันจะชี้แจงความแตกต่างให้คุณฟัง " อีกวิธีหนึ่งลองให้เขาจินตนาการถึงโอกาสธุรกิจว่าเป็นอย่างไร และพยายามแก้ไขภาพนั้นให้ถูกต้อง " คุณมีภาพอะไรอยู่ในใจเมื่อดิฉันบอกเล่าโอกาสทางธุรกิจนี้ให้คุณฟัง ภาพในใจดิฉันตอนรับฟังเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายครั้งแรกคือ การเร่ขายแชมพูตามบ้าน และปฏิกิริยาตอบสนองทันที่ของดิฉันคือ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันต้องการทำ นั่นเป็นความคิดของคุณด้วยหรือเปล่า " ประเด็นคือพยายามทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย จนกล้าที่จะพูดถึงเรื่องความกัลลงวลใจของเขากับคุณ
·         ข้อโต้แย้ง : ผมไม่มีเงิน
คำตอบที่เป็นไปได้คือ " นั่นเป็นเหตุผลที่ถูกต้องว่าทำไม่คุณควรจะพิจารณาธุรกิจนี้ ธุรกิจประเภทอื่นอาจต้องการเงินทุนพอสมควร แต่ในการตลาดเครือข่าย คุณใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่ต้องใช้เลย อันที่จริงคุณจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน XXX  บาท ในตอนแรกเท่านั้น ที่เหลือก็เป็นเรื่องของความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ และความเติมใจที่จะอุทิศเวลาให้กับมันมากกว่า " 
·         ข้อโต้แย้งดิฉันขายไม่เป็นหรอก หรือผมไม่ใช่นักขาย
คำตอบที่เป็นไปได้คือ " เมื่อดิฉันถูกชักนำเข้าสู่ธุรกิจนี้ ดิฉันมีภาพในหัวว่า ดิฉันต้องเดินขายแชมพูตามบ้าน มันเป็นภาพในอดีต อย่างน้อยที่สุดสำหรับดิฉัน เราไม่ขายในลักษณะที่คุณคิดว่าการขายจำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น   สิ่งที่เราทำคือ บอกเล่าข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เราชอบ และใช้ส่วนตัวให้คนอื่นฟัง "   หรือ "  ดิฉันก็ขายไม่เป็นเช่นกัน แต่เรามีวีดีโอและเทปที่อธิบายถึงผลิตภัณฑ์ และช่วยกระตุ้นให้คนซื้อ "   หรือ "  ให้ดิฉันถามคุณอย่างนี้ดีกว่า ถ้าคุณได้ดูภาพยนตร์ที่ดี  สักเรื่องคุณจะบอกเพื่อนคุณไหม แล้วคุณจะทำอย่างเดียวกันถ้าคุณเจอผลิตภัณฑ์ที่คุณชอบหรือไม่ ในทำนองเดียวกัน เราจะบอกต่อถึงสิ่งที่เราชอบในผลิตภัณฑ์  สิ่งนี้ไม่ใช่การขาย นี่เป็นการโฆษณาปากต่อปากมากกว่า " 
·         ข้อโต้แย้ง : ผมไม่มีเวลาหรอก
 
คำตอบที่เป็นไปได้  "  ดิฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกอย่างไร ดิฉันเคยคิดว่าดิฉันไม่มีเวลา แต่ดิฉันพบว่าถ้ามันสำคัญมากพอ เรามักหาเวลาทำมันได้ การได้คุยกับคนจำนวนมากที่เหมือนตัวคุณ ดิฉันว่ามันสำคัญสำหรับคนส่วนมากที่จะใช้เวลาหาแหล่งรายได้ที่  2 " 
·         ข้อโต้แย้ง  :  ผมไม่รู้จักใครสักหน่อย
คำตอบที่เป็นไปได้  "  นั่นคือ สิ่งที่บางคนคิด การวิจัยพบว่าคนทั่วไปรู้จักชื่อคนอย่างน้อย 80 คน ถ้าคุณคิดอย่างนี้ ดิฉันแน่ใจว่าคุณต้องรู้จักอย่างน้อยคนที่คุณสามารถคุยด้วยได้ และนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี  "  หรือ  " คุณต้องการรู้จักคนเพิ่มหรือเปล่า ดิฉันว่านี่เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการหาเพื่อนนะ "
·         ข้อโต้แย้ง : ขอปรึกษาภรรยาในเรื่องนี้ดูก่อน
คำตอบที่เป็นไปได้  "  ดิฉันเองก็ต้องการคุยกับภรรยาคุณในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เมื่อไรดีค่ะ  "  หรือ   "  ดิฉันดีใจที่คุณต้องการทำอย่างนั้น แล้วดิฉันก็อยากให้คุณทราบว่า มีคู่สมรสหลายคู่ทำธุรกิจนี้ด้วยกัน    พวกเขาต่างสนุกและประสบความสมเร็จไปด้วยกัน ดังนั้น ให้ดิฉันเล่ารายละเอียดคุณอีกเล็กน้อยนะค่ะ
·         ข้อโต้แย้ง  :  นี่เป็นการขายแบบพีระมิดหรือเปล่า
คำตอบที่เป็นไปได้  "  ดิฉันเดาว่า คุณกำลังพูดถึงการขายแบบต้มตุ๋นที่เรียกว่าการขายแบบลูกโซ่หรือพีระมิด โดยทั่วไปมันจะมีลักษณะสำคัญ 2 ประการคือ หนึ่ง..ไม่ผลิตภัณฑ์ที่จะขาย หรือมีผลิตภัณฑ์ที่ไร้ประโยชน์ไว้ขาย  สอง..ต้องใช้เงินจำนวนมากจ่ายล่วงหน้าก่อนจะได้รับค่าตอบแทนใด บริษัทที่ดิฉันกำลังพูดถึงนี้ ทำธุรกิจถูกกฎหมายและไม่ได้เข้าข่าย 2 ลักษณะข้างต้น "
·         ข้อโต้แย้ง  :  ผมเคยลองทำดูแล้วแต่มันไม่เห็นจะเกิดผลดีกับผมตรงไหนเลย
คำตอบที่เป็นไปได้  "  ดิฉันเสียใจที่ได้ยินอย่างนี้ ดิฉันต้องการเรียนรู้จากประสบการณ์คุณ บอกดิฉันได้ไหมว่าอะไรที่มันผิดพลาดเปิดโอกาสให้เขาเล่าเรื่อง ) ขอบคุณที่กรุณาเล่าสู่กันฟัง คุณทำให้ดิฉันกระจ่างถึงข้อกังวลที่คุณอาจมี ให้โอกาสดิฉันได้บอกคุณว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เรื่องอย่างนั้นมันเกิดขึ้นอีก หรือไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก " หรือ "  ให้ดิฉันถามคำถามคุณขอหนึ่ง แล้วคุณช่วยตอบดิฉันอย่างตรงไปตรงมาได้ไหม  ถ้าคุณเป็นวิศวกรที่ชำนาญในการก่อสร้างสะพาน สมสุติว่าสะพานแรกที่คุณสร้างขึ้นเกิดพัง คุณจะพูดไหมว่ามันพัง ซึ่งมันไม่เห็นเเป็นผลดีกับคุณเลย  และต่อมาคุณก็ไม่กล้าที่จะสร้างสะพานอีกต่อไป  ทีนี้คุณจะไม่ตั้งคำถามเชียวหรือว่าอะไรมันทำให้เกิดความผิดพลาด และเมื่อรู้แล้วก็พยายามทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำสองอีก
 
ทุกคำปฏิเสธ และทุกข้อโต้แย้ง ดิฉันเชื่อเสมอว่ามันเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่า ที่ไม่ได้ว่าทุกคนจะมีได้ ถ้าขาดการลงมือทำ จงเริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้แล้วจะรู้ว่า ธุรกิจ MLM นี้ยังมีทางออกของปัญหาอีกมากมายจริงๆ